อย่างที่ทราบกันดีว่า รถจักรยานยนต์ คือยานพาหนะที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โดยเฉพาะคนในเมืองที่เน้นการขับขี่รถจักยานยนตร์เป็นหลัก เพราะนับวันการจราจรในเมืองยิ่งหนาแน่นมากขึ้นทุกที ดังนั้นการขับขี่จักรยานยนต์จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างตรงจุด แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากที่มีการใช้งานรถอย่างหนักหน่วง นั่นก็คือการ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการสึกหรอ หรืออาการเสื่อมสภาพที่ตามมา
เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการสร้างความรู้เบื้องต้นแก่คนใช้มอเตอร์ไซค์ วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการเสียเบื้องต้นที่ต้องรู้ เพื่อสร้างความรู้ติดตัวไว้ และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยอันดับแรกเราจะต้องรู้อาการเสียของรถกันก่อน ซึ่งรถจักรยานยนต์แต่ละรุ่นนั้นก็จะมีอาการเสียที่แตกต่างกันไป และมีอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก็จะต้องใช้วิธีการ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ ที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งอาการเสียเบื้องต้นที่ควรต้องรู้จะมีด้วยกัน 5 อาการหลักๆ ดังนี้
5 อาการเสียเบื้องต้นของรถมอเตอร์ไซค์ที่ควรรู้
1. รถจักรยานยนตร์สตาร์ทติดยาก
อาการแรกที่ทำให้ต้อง ซ่อม มอเตอร์ไซค์ นั่นก็คือ รถสตาร์ทติดอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆ ก็ดับไป หรือสตาร์ทติดอยู่สักพักก็ดับไปเลย หรือสตาร์ทไม่ติดเลย โดยส่วนใหญ่อาจมีสาเหตุหลักมาจากเรื่องของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ที่อาจมีเหลือน้อยมาก หรืออาจมีแค่ก้นถัง จนทำให้มีไม่พอให้ไหลลงไปถึงระบบฉีดน้ำมัน หรืออาจเป็นที่ส่วนของไส้กรองเชื้อเพลิงสกปรกและมีการอุดตัน หรือระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันมีการอุดตัน และสุดท้ายก็คือเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่ต่ำไป เป็นต้น
2. มีกลิ่นและควันออกมา
ต่อมาคืออาการมีกลิ่นและควันพวยพุ่งออกมา โดยหากสังเกตได้กลิ่นแปลกๆ ออกมาจากส่วนต่างๆ ของรถ อย่างเช่น กลิ่นไหม้ หรือกลิ่นน้ำมันเบนซิน อาจวิเคราะห์ได้ว่ากำลังมีระบบไฟฟ้าลัดวงจรในบางจุด หรืออาจเกิดการรั่วซึมบริเวณทางเดินน้ำมัน เพราะหากมีอาการผิดปกติบริเวณดังกล่าว ส่วนมากมักจะมีควันออกมาพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นต้องลองสังเกตกันดูว่ามีควันลอยออกมาจากจุดไหนบ้าง เพื่อจะได้ทำการ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ ได้อย่างถูกจุด
3. แฮนด์หนัก ล้อแกว่ง
ถัดมาเป็นอาการเสียของรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งสังเกตได้จากการที่เราต้องออกแรงบังคับแฮนด์มากกว่าปกติ และช่วงเวลาที่ขับรถอาจมีอาการเอียงไปมา เอียงไปทางซ้ายบ้างหรือขวาบ้าง นั่นอาจมีสาเหตุมาจากการที่รถจักรยานยนตร์ตกหลุมบ่อยๆ รถเคยล้ม หรือรถมีการบรรทุกน้ำหนักที่มากเกินไป ส่วนอาการล้อแกว่งจะเกิดขึ้นเมื่อรถจักรยานยนต์วิ่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่วงล้อรถคด ทำให้เมื่อหมุนแล้วเกิดการไม่สมดุล ต้องรีบทำการ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ โดยด่วน
4. สั่นสะเทือนกว่าปกติ
มาต่อกันที่อาการสั่นสะเทือนเกินกว่าปกติ โดยอาการนี้มีสาเหตุมาจากระบบโช๊คอัพเกิดการชำรุด หรือมีการเสื่อมสภาพ อย่างเช่น โช๊คอัพเกิดการแตกรั่ว หรือบริเวณแกนของโช๊คอัพเกิดการคดงอ ซึ่งอาการแบบนี้อาจต้องให้ช่างประเมินให้ก่อน ซ่อม มอเตอร์ไซค์ ว่ามีอาการมาจากส่วนไหนกันแน่
5. อาการสะดุดเวลาเร่งเครื่อง
สุดท้ายกับอาการสะดุดเวลาเร่งเครื่อง อาการนี้อาจดูเหมือนว่าจะเบากว่าอาการสตาร์ทรถไม่ติด แต่จริงๆ แล้วเป็นอาการที่มีความเกี่ยวเนื่องกับความผิดปกติของระบบภายในเครื่องยนต์ ซึ่งอันตรายกว่าที่คิด เพราะถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งเครื่องยนต์ก็จะดับลง หรืออาจจะถึงขั้นเครื่องยนต์น็อคไปเลยก็ได้ ซึ่งอาจต้องเสียค่า ซ่อม มอเตอร์ไซค์ กันเยอะเลยทีเดียว
และนี่ก็คือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการ ซ่อม มอเตอร์ไซค์ ด้วยตนเองง่ายๆ แน่นอนว่าก่อนที่เราจะลงมือซ่อม หรือพาไปให้ร้านซ่อมได้นั้น เราควรมีความรู้พื้นฐานเหล่านี้ไว้เช็คอาการเสียก่อน เพื่อจะได้รู้ถึงอาการว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเราอาการอยู่ในระดับไหน มากหรือน้อย ซึ่งหากมีอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอจะซ่อมเองได้ เราก็สามารถทำการซ่อมเองได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ถ้าเกิดรถมีอาการหนักหน่วงเอาการล่ะก็ ขอแนะนำว่าควรถึงมือของช่างผู้เชี่ยวชาญเห็นจะดีที่สุด
รูปภาพประกอบ : cob999motor.com
รูปภาพประกอบ : istockphoto.com
อ่านต่อที่ รีวิว ยามาฮ่า fazzio สกูตเตอร์ เกียร์ออโต ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
