สำหรับคนที่เพิ่งออกรถมอเตอร์ไซค์มานั้น สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องทำควบคู่กันไปด้วยก็คือ การทำ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ซึ่งมักเป็นการบังคับให้ทำและเราไม่สามารถเลี่ยงได้ หลายคนจึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบังคับทำ และมีความจำเป็นอย่างไรทำไมถึงต้องทำด้วย วันนี้เราก็เลยจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ พรบ มอเตอร์ไซค์ หรือ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ บอกถึงความสำคัญและประโยชน์ต่างๆ ว่าทำไมต้องมี และสามารถนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง หากพร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันเลย
พ.ร.บ. คืออะไร?
พ.ร.บ. ก็คือ พระราชบัญญัติที่มีเพื่อใช้คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยถือเป็นกฎหมายภาคบังคับที่ให้ผู้มีรถและจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จะต้องทำไว้เพื่อใช้เป็นหลักประกันแก่ตัวผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร รวมถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ด้วย ซึ่งทุกคนที่ทำจะได้รับสิทธิความคุ้มครองและได้รับค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุ จากเงินทุนในกองกลางที่รถทุกคันได้ทำ พ.ร.บ.เอาไว้
พรบ มอเตอร์ไซค์ มีประโยชน์อย่างไร คุ้มครองอะไรได้บ้าง?
1. คุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้น ยังไม่ต้องพิสูจน์ความผิด
ค่าเสียหายเบื้องต้น คือ ค่าใช้จ่ายที่ทาง พรบ มอเตอร์ไซค์ จะดำเนินการชดเชยให้เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น โดยสามารถทำการเบิกจ่ายได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม ซึ่งจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งคนขับและคนซ้อน ทั้งนี้ผู้ที่มี พ.ร.บ.จะได้รับเงินค่าชดเชยภายใน 7 วัน ตามเงื่อนไข ดังนี้
• กรณีบาดเจ็บ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 30,000 บาท
• กรณีเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 35,000 บาท
• กรณีที่ได้รับบาดเจ็บแล้วสูญเสียอวัยวะตามมา จะได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 65,000 บาท
• กรณีรักษาพยาบาลแล้วเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 65,000 บาท
2. คุ้มครองค่าสินไหมทดแทน
ค่าสินไหมทดแทน คือ ค่าใช้จ่ายที่ทาง พรบ มอเตอร์ไซค์ จะชดเชยให้ เมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่าผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งคนขับและคนซ้อน โดยมีการคุ้มครอง ดังนี้
• กรณีได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริงคนละไม่เกิน 80,000 บาท
• กรณีมีค่ารักษาพยาบาล จะจ่ายให้ตามค่าใช้จ่ายจริง โดยมีวงเงินไม่เกิน 80,000 บาท
• กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ จะได้รับเงินค่าชดเชย 300,000 บาท
• กรณีสูญเสียอวัยวะ
- นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป จะได้รับเงินค่าชดเชย 200,000 บาท
- สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน จะได้รับเงินค่าชดเชย 250,000 บาท
- สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน จะได้รับเงินค่าชดเชย 300,000 บาท
• หากมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ( ผู้ป่วยใน ) จะได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน
พรบ มอเตอร์ไซค์ สามารถเคลมเอาประกันได้อย่างไร?
เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลต่างๆ ตามมา โดยจะอยู่ในการคุ้มครองของทาง พ.ร.บ.ก่อนเสมอ และถ้าค่าใช้จ่ายดังกล่าวนั้นมีมากเกินวงเงิน จึงจะสามารถเคลมใช้สิทธิอื่นๆ ได้ อย่างเช่น ประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม หรือการเบิกจ่ายประกันอื่นๆ เป็นต้น
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเคลม
1. กรณีที่บาดเจ็บเล็กน้อย
• สำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองแล้ว
• สำเนาใบขับขี่ที่เซ็นรับรองแล้ว
• ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
2. กรณีที่บาดเจ็บและต้องนอนพักโรงพยาบาล
• สำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองแล้ว
• สำเนาใบขับขี่ที่เซ็นรับรองแล้ว
• ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ( ถ้ามี )
• ใบรับรองแพทย์ ต้องระบุว่าจำเป็นต้องพักรักษาในโรงพยาบาล
3. กรณีทุพพลภาพ
• สำเนาบัตรประชาชนที่เซ็นรับรองแล้ว
• สำเนาใบขับขี่ที่เซ็นรับรองแล้ว
• ใบรับรองแพทย์
• หนังสือรับรองความพิการ
• สำเนาบันทึกประจำวันของเจ้าพนักงานสอบสวน
4. กรณีเสียชีวิต
• สำเนาบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต
• ใบมรณะบัตร
• สำเนาบัตรประชาชนทายาทหรือผู้รับมรดก
• สำเนาทะเบียนบ้านทายาทหรือผู้รับมรดก
• สำเนาบันทึกประจำวันของเจ้าพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตามทางบริษัทประกันอาจจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมเป็นรายกรณีไป อาทิเช่น เอกสารสำเนาทะเบียนรถ หรือเอกสารบันทึกประจำวันตัวจริง เป็นต้น
ขั้นตอนการแจ้งเคลมประกัน
1. หลังจากที่ได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลว่าขอใช้สิทธิ์เบิกตาม พรบ มอเตอร์ไซค์ และให้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดที่ไหน อย่างไร รวมถึงแจ้งเลขทะเบียนและรุ่นของรถที่เกี่ยวข้องด้วย
2. ทางโรงพยาบาลจะประสานงานให้ เพื่อดูแลสิทธิ์การเคลมตาม พ.ร.บ. แต่โดยส่วนมากก็จะมีหน่วยงานภายในที่ทำหน้าที่ดูแลทางด้านนี้อยู่แล้ว
3. แจ้งความทำการลงบันทึกประจำวันไว้และดำเนินการสอบสวน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมเอาค่าสินไหมทดแทน ที่ต้องมีการพิสูจน์ว่าผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก
4. ต่อมาไปยื่นเอกสารสำหรับการเคลมที่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย ภายใน 180 วันหลังจากที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยปกติแล้วจะได้รับเงินค่าชดเชยภายใน 7 วันทำการ หรือโทร 1791
และนี่ก็คือ สาระที่ทุกคนจะต้องรู้เกี่ยวกับ พรบ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องมีไว้ เพราะ พ.ร.บ.เปรียบเสมือนเป็นหลักประกันขั้นแรกที่จะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายขั้นต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถจักรยานยนต์เพราะมีความเสี่ยงสูงที่สุด ดังนั้นทุกคนจึงควรทำและต้องต่อ พ.ร.บ. ทุกครั้ง เพื่อรักษาสิทธิความคุ้มครอง และเพื่อความสบายใจในการขับขี่บนท้องถนน