ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มนักแข่งและผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว แต่อย่างที่ทราบกันดีว่ารถประนี้นั้นมีราคาสูงพอสมควร ดังนั้น รถมือสอง จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว วันนี้เราก็เลยอยากจะมาพูดถึง วิธีเลือกซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อเป็นแนวทางให้คนที่มีแพลนกำลังจะหาซื้อได้พิจารณาก่อนการตัดสินใจ ซึ่งจะมีเกณฑ์การพิจารณาจากอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

1. เช็คเอกสารให้ถูกต้อง
เริ่มที่วิธีการเลือกซื้อรถ บิ๊กไบค์มือสอง อันดับแรกให้ดูที่เอกสาร ดูที่เลขคอและเลขเครื่องว่าตรงกับคู่มือจดทะเบียนหรือไม่ และเลขคอหรือเลขเฟรมจะต้องตรงกับรุ่นของรถคันนั้นๆ ด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อต้องศึกษาข้อมูลมากพอสมควร ต้องรู้ว่ามีเลขเฟรมรหัสอะไร เพราะเลขนี้ไม่มีทางหลอกได้ หรือแม้เห็นว่าเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ก็ยังต้องดูให้แน่ชัดอีกครั้งว่ามีการตอกทับตัวเลขมาหรือไม่
2. สีเดิมๆ จากโรงงาน
ถ้าสีตัวรถเดิมๆ จากโรงงานและยังไม่ผ่านการทำสีใหม่ แสดงว่ารถคันนี้อาจยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เพราะส่วนมากรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุจะมีร่องรอยการทำสีใหม่ เพราะถ้าหากเปลี่ยนอะไหล่อย่างชุดแฟริ่งจะต้องใช้เงินถึงหลักหมื่น แต่ถ้าเป็นการทำสีใหม่ใช้งบแค่หลักพันเท่านั้น ซึ่งอย่างน้อยแล้วหากจะซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ก็ขอเป็นสีเดิมไว้ก่อน รวมถึงชุดแฟริ่งทางที่ดีอย่าให้มีรอยแตกหักหรือผ่านการซ่อมแซมมาจะดีที่สุด

3. เครื่องยนต์ไม่สะดุด
สำหรับการพิจารณาเครื่องยนต์ของ บิ๊กไบค์มือสอง จริงๆ ควรใช้เครื่องมือตรวจสอบ แต่นั่นอาจค่อนข้างลำบากเกินไปจึงต้องอาศัยการฟังเสียงเอา โดยการสตาร์ทเครื่องฟังเสียงรอบเดินว่ามีสะดุดหรือไม่ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ประมาณ 1,200 รอบต่อนาที อาจจะมีสวิงบ้างแต่ไม่มาก หรือลองบิดคันเร่งเล็กน้อยให้สังเกตดูว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ กรณีรถที่แคมชาร์ฟละลายมาก่อนเครื่องอาจเดินเบาไม่ค่อยได้ยิน แต่ถ้าหากเร่งเครื่องจะดังสะท้านขึ้นมาและรู้ทันทีว่าเครื่องมีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่อาจฟังลำบากหน่อย เอาเป็นว่าบิดคันเร่งแล้วหากเสียงเครื่องไม่สะดุด ไม่มีเสียงแปลกปลอมก็ถือว่าใช้ได้
4. อุปกรณ์สึกหรอพร้อมใช้
ในส่วนของรถ บิ๊กไบค์มือสอง อุปกรณ์ที่สึกหรอจะต้องดูว่ายังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานหรือไม่ ซึ่งจะแบ่งออกได้ ดังนี้
1.ยาง จะต้องอยู่ในสภาพดี เนื้อนิ่ม ไม่แตก และดูวันที่ผลิตด้วย
2.โซ่ สเตอ ดูว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่ เพราะถ้าซื้อมาแล้วต้องเปลี่ยนใหม่เองคิดว่าคงไม่คุ้มแน่ๆ
3.ผ้าเบรก ให้ดูที่ความหนา ถ้าเปลี่ยนต้องของแท้ตรงรุ่น ราคาหลายพัน
4.จานเบรก ให้ดูจากความหนาและพื้นผิว ถ้ารถใช้ผ้าเบรกแบบอัดใหม่จะทำให้พื้นผิวเงาคล้ายๆ กระจกแบบนี้ไม่ดีแน่นอน แต่ถ้าใช้ผ้าเบรกของแท้ตรงรุ่นตรงพื้นผิวจานเบรกจะด้านๆ หรือเป็นลายคลื่นแต่ไม่มาก เมื่อเอานิ้วลูบจะมีความสากเล็กน้อย

5. อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นทั้งหมด
การใช้ตาดูอุปกรณ์เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถนำมาพิจารณาการันตีตัวรถได้ เช่น เรือนวัดความเร็ว ที่เชื่อถือได้เพียงเล็กน้อยเพราะสามารถนำมากรอใหม่ได้ นอกจากนี้รถ บิ๊กไบค์มือสอง ที่เคยประสบอุบัติเหตุหนักๆ จะมีจุดสังเกตก็คือ สต็อปเปอร์ที่แผงคอจะสึกหรือหักไปเลยหรือไม่ก็มีรอยบุบ และอีกจุดก็คือ เช็คว่าโช้คหน้ามีความงอหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่จะต้องทิ้งร่องรอยไว้ ถ้าคนขายไม่เก็บงานก็มองด้วยตาก็เห็นเลย หรือบางคนก็ซ่อนโดยใช้วิธีโหลดหน้า แบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าทำเพื่อปกปิดร่องรอยบางอย่างแน่นอน
6. การรับประกัน
หากซื้อกับทางเจ้าของรถโดยตรงข้อเสียก็คือเรื่องของการรับประกันและการนำรถเข้าเซอร์วิส แต่ถ้าซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง กับทางร้านค้าหากเกิดปัญหาสามารถนำรถเข้าเคลมกับประกันได้
จบไปแล้วกับวิธีการเลือกซื้อ บิ๊กไบค์มือสอง ให้เหมาะสมตามการใช้งาน ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนสำหรับมือใหม่นิดหนึ่ง แต่รับรองว่าหากใช้วิธีเหล่านี้ในการพิจารณาแล้วล่ะก็จะไม่เสียใจมานั่งร้องไห้ทีหลังอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามก็ควรศึกษาหาข้อมูลรถให้มากพอก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวเองและเรื่องของความปลอดภัยในระยะยาวด้วย
รูปภาพประกอบ : bigbike.in.th
รูปภาพประกอบ : roojai.com
รูปภาพประกอบ : 2mocyc.blogspot.com