ใบขับขี่มอไซค์ หรือรถยนต์ อย่าปล่อยให้หมดอายุ เพราะวิธีต่อใบขับขี่ทั้งที่เป็นมอไซค์ และรถยนต์ในปี 2566 นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถเข้ามาจองคิวกับทางขนส่ง หรือจองผ่านคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue ได้เลย ซึ่งถ้าใครปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ นอกจากจากโดนปรับจากตำรวจจราจรเมื่อตรวจพบแล้ว หากปล่อยให้ขาดนานไปอาจจะต้องสอบใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ข้อเขียนไปจนถึงการทดสอบการขับขี่ เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ จะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ วันนี้เรามีข้อมูลอัพเดทใหม่ล่าสุดของปี 2566 มาฝาก
การติดต่อจองคิว ต่ออายุใบขับขี่
ผู้ที่ต้องการ ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ สามารถติดต่อจองคิวได้ทั้งแบบ Walk in และจองคิวผ่านทางระบบออนไลน์ได้ ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็จะมีรายละเอียดดังนี้
การต่อจองคิวใบขับขี่แบบ Walk in
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่มอไซค์ หรือ รถยนต์ แบบ Walk in สามารถเดินทางไปจองคิวต่อใบขับขี่ได้ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศไทย แต่ต้องผ่านการอบรมทฤษฎีออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com ให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะสามารถเดินทางมาต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งได้
การต่อใบขับขี่แบบ จองคิวผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับผู้ที่ต้องการ ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ เมื่อผ่านการอบรมดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว สามารถติดต่อจองคิวผ่านทางแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue เพื่อต่อใบขับขี่ได้เลย โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน กรอกรหัสผ่านให้เรียบร้อย
- เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการต่อใบขับขี่
- เลือก “งานใบอนุญาต” และเลือกประเภทรถที่ต้องการต่อใบขับขี่
- กรอกข้อมูลใบขับขี่ วัน/เดือน/ปี ที่หมดอายุ
- เลือกประเภทงานเกี่ยวกับการต่ออนุญาตใบขับขี่
- เลือก วันและเวลา จากนั้นกด ยืนยันการจอง
การต่ออายุใบขับขี่แบบชั่วคราว 2 ปี เป็น 5 ปี
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่แบบชั่วคราว (2 ปี) มาเป็น 5 ปี หลักฐานที่ต้องใช้ และค่าธรรมเนียมที่ต้องเตรียมในการต่อใบขับขี่ 2566 ก็จะมีดังนี้
- ใบขับขี่ชั่วคราว อายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ ที่แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัว ที่อาจเป็นอันตรายขณะขับขี่ยานพาหนะ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตจิตฟั่นเฟือน ซึ่งใบรับรองแพทย์จะต้องมีอายุใช้งาน ออกก่อนวันที่ยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่
- ทดสอบสภาพร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วย การทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ การทดสอบสายตาทางลึก การทดสอบสายตาทางกว้าง และการทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า ในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณจราจร
- ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
- ชำระค่าธรรมเนียม ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 255
ทั้งนี้ผู้ขอต่อใบขับขี่สามารถ ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป ผู้ขอจะต้องทดสอบข้อเขียน และทดสอบการขับรถใหม่
การต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี 2566
สำหรับการต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี ในปี 2566 หลักฐานที่ต้องใช้ และค่าธรรมเนียมที่ต้องเตรียมก็จะมีดังนี้
- ใบขับขี่ใบเดิม
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ ที่แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัว ที่อาจเป็นอันตรายขณะขับขี่ยานพาหนะ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตจิตฟั่นเฟือน ซึ่งใบรับรองแพทย์จะต้องมีอายุใช้งาน ออกก่อนวันที่ยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ 5 ปี
- ทดสอบสภาพร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วย การทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในการขับรถ การทดสอบสายตาทางลึก การทดสอบสายตาทางกว้าง และการทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า ในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณจราจร
- ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
- ชำระค่าธรรมเนียม ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 255 รถยนต์ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 505
ทั้งนี้ผู้ขอต่อใบขับขี่สามารถ ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป ผู้ขอจะต้องทดสอบข้อเขียน และทดสอบการขับรถใหม่
และนี่คือรายละเอียดในการต่อใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ในปี 2566 อัพเดทใหม่ล่าสุด ที่เราได้รวบรวมมาฝากในวันนี้ ใครที่ใบขับขี่กำลังจะหมดอายุก็ให้รีบไปต่อให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้หมดอายุ เพราะหากตำรวจจราจรตรวจพบต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้หมดรีบไปต่อให้เรียบร้อยจะดีที่สุด
อ่านบทความ Scram 411 มอเตอร์ไซค์คลาสสิค รุ่นใหม่ จาก Royal Enfield