มาเอาใจชาว 2 ล้อ ที่ชอบขับขี่กันในสไตล์แอดเวนเจอร์ไรเดอร์กันสักหน่อย กับ 5 รุ่น มอเตอร์ไซค์ วิบาก ที่เราจะนำมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกันวันนี้ รับรองเลยว่ามีแต่รุ่นแจ่ม ๆ น่าขับน่าเบิ้ล น่านำไปลุยในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นท้าทายเป็นอย่างมาก ซึ่ง 5 รุ่นที่เราจะนำมาแนะนำนี้จะมีรุ่นอะไรที่เข้าตากรรมการกันบ้างไปดูกันเลย
1. มอเตอร์ไซค์วิบาก Kawazaki KLX150
เครดิตภาพ kawasaki.co.th
รถจักรยานยนต์ออฟโรดระดับเริ่มต้นยอดนิยมจาก KAWASAKI โดยเป็นรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตคู่แบบสตรีทมาตรฐานที่สามารถขี่ได้ทั้งถนนและทางวิบาก นอกจากนี้ยังเป็น มอเตอร์ไซค์ วิบาก ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้น ในการขับขี่รถวิบากอีกด้วย เบาะนั่งตั้งตรงและปลอกหุ้มจับกระชับมือมาก ตำแหน่งการขี่ตั้งตรงอย่างเห็นได้ชัด แฮนด์บาร์กว้างมาก และค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นจึง ตอบสนองต่อการขับขี่บนเส้นทางวิบากได้ดี ความจุถังน้ำมัน 6.9 ลิตร น้ำหนักตัวรถ 113 กก เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ 144 ซีซี. SOHC 2 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์
ราคากลาง : 79,000 บาท
2. มอเตอร์ไซค์วิบาก Kawazaki KLX230
เครดิตภาพ kawasaki.co.th
เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีความสามารถอย่างน่าประหลาดใจ สามารถขับขี่ได้ทั้งบนท้องถนนและพื้นที่วิบาก และมีเกียร์ที่ดีในการขับปีนเขาที่ยาว ชัน และให้ความนุ่มนวล ด้วยระบบซิงเกิ้ล 4 จังหวะ 230cc. ระบบกันสะเทือนนั้นก็ยอดเยี่ยม แม้จะนุ่มไปหน่อยสำหรับนักขี่ที่ชอบการขับขี่ที่ดุดัน เครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ SOHC
ราคากลาง : 121,300 บาท
3. มอเตอร์ไซค์วิบาก Yamaha WR155R
เครดิตภาพ yamaha-motor.co.th
มอเตอร์ไซค์ วิบาก ที่ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมในเกือบทุกรูปแบบของภูมิประเทศ และให้ความสมดุลที่น่าทึ่งในการขับขี่ เครื่องยนต์ 155cc ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยกำลัง 16.5 แรงม้า และแรงบิด 14.3 นิวตันเมตร มีการติดตั้งระบบสั่งงานวาล์วแปรผัน (VVA) เพื่อให้มีแถบกำลังไฟฟ้าที่กว้างขึ้น ทำให้ส่งเสียงฮึดฮัดที่มีทั้งรอบต่ำและสูง อีกทั้งยังมีระบบไอเสียที่ติดตั้งในระดับสูง เบาะนั่งและส่วนท้ายที่บางกว่า และยางกึ่งน็อบ (21 นิ้วที่ด้านหน้าและ 18 นิ้วที่ด้านหลัง)
ราคากลาง : 105,000 บาท
4. มอเตอร์ไซค์วิบาก Honda CRF300L
CRF250L เป็นสินค้าหลักในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Big Red ตั้งแต่ปี 2013 ต่อมาได้รับการเปลี่ยนขนาดจาก 250cc เป็น 286cc และเปลี่ยนชื่อเป็น CRF300L รวมทั้งมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ ระบบกันสะเทือน และแชสซีอีกหลายรายการ เป้าหมายของ Big Red ในการสร้างรถรุ่นใหม่ คือการปรับปรุงสมรรถนะทางวิบาก รวมเข้ากับรักษาความง่ายในการใช้งานในการขับขี่ในทุก ๆ วัน และด้วยเหตุนี้ Honda CRF300L จึงมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ง่าย สำหรับนักขี่รุ่นใหม่และผู้ที่สนใจ มอเตอร์ไซค์ วิบาก ราคาประหยัดที่ใช้งานง่าย รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบไอเสียที่เบาลง และตัวกรองอากาศใหม่ อัตราทดเกียร์ในระบบส่งกำลัง 6 สปีด
ราคากลาง : 145,800 บาท
5. มอเตอร์ไซค์วิบาก Honda CRF450RL
ถึงแม้ว่า CRF450RL จะมีความหนักกว่า มอเตอร์ไซค์ วิบาก ดูอัลสปอร์ตของยุโรปบางรุ่น แต่ก็ยังคงเบา แคบ และคล่องตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ มาพร้อมถังเชื้อเพลิงไททาเนียม 2 แกลลอน CRF450RL มีพื้นฐานมาจากแพลตฟอร์มออฟโรด CRF450 Performance ในตำนาน แต่กลับมีความนุ่มนวลและสบายอย่างน่าประหลาดใจเมื่อขับบนท้องถนนทั่วไป พร้อมเพิ่มเติมคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น…ท่อไอเสียแบบเงียบ สวิงอาร์มฉีดยูรีเทนลดแรงสั่นสะเทือน และเกียร์ 6 สปีดที่มีอัตราส่วนกว้าง ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะทำงานได้ดีบนถนน ขณะที่เครื่องยนต์ Unicam® ขนาด 449 ซีซี เฟรมอะลูมิเนียมคู่ เหมาะกับการเดินทางระยะไกลระดับพรีเมียม CRF450X มีระบบส่งกำลัง 6 สปีด ทำให้เบาและว่องไว ทำให้สามารถขับได้ในสภาวะภูมิประเทศที่หลากหลาย
ราคากลาง : 339,000 บาท
และนี่ก็คือ มอเตอร์ไซค์ วิบาก ที่เรานำมาเสนอวันนี้ บางตัวเหมาะกับผู้ที่เริ่มหัดขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเป็นครั้งแรก และบางตัวก็มีราคาค่อนข้างที่จะเอื้อมถึงมาก ๆ ดังนั้นถ้าคุณอยากจะลุยในวงการรถมอเตอร์ไซค์วิบากนี้ ก็อาจจะเริ่มจากตัวที่ขับขี่ง่ายเพื่อทำความรู้จักกันไปก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยยกระดับการขับขี่ให้สูงขึ้น เร้าใจลุยทุกพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิมก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน และอย่าลืมศึกษาความต้องการของตนเองให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้เลือกรถที่โดนใจมาไว้ในครอบครอง
อ่านบทความ 10 รุ่นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2022 เอาใจวัยรุ่นยุคใหม่