ความเป็นมาของ มอเตอร์ไซค์ BMW เปิดตำนานในปี 1921 เมื่อทางบริษัทเริ่มนำร่องผลิตเครื่องยนต์ให้กับบริษัทอื่น ๆ โดยรถจักรยานยนต์ของ BMW มีการขายภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า BMW Motorrad และเริ่มนำเสนอต่อวงการ 2 ล้อในปี 1923 ด้วยการนำเสนอ BMW R 32 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์คู่แฝด (หรือที่เรียกว่าเครื่องยนต์ boxer-twin) และการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์คู่แฝด ก็ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ BMW ยังได้ผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ร่วมกับเครื่องยนต์ประเภทอื่น ๆ ออกมาอีกด้วย และสำหรับในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 5 รุ่นมอเตอร์ไซค์ BMW ที่ได้รับความสนใจและได้รับความนิยมมากที่สุดกันนอกเหนือไปจากการออกแบบรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวโดนใจแล้ว ก็ยังมีความเร็วแรง สามารถใช้ในการขับขี่ผจญภัย หรือใช้ในการขับขี่ในเมืองแบบเท่ ๆ ได้อีกด้วย
1. มอเตอร์ไซค์ BMW C650GT
BMW C650 GT เป็นมอเตอร์ไซค์ BMW ที่มอบความสบายให้กับผู้ขี่และผู้โดยสารเป็นอย่างมาก มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มาพร้อมแรงบิด 60bhp และ 63Nm มาพร้อมเครื่องยนต์ 647 CC. BMW C650 GT มาพร้อมระบบ ABS เพื่อนำเสนอการเบรกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทาง มอเตอร์ไซค์ BMW ยังได้ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์ CVT ของมอเตอร์ไซค์ เพื่อทำให้มีความเร็วสูงสุดและอัตราเร่งที่ดีขึ้น และทาง BMW ได้ติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะถนนมาตรฐาน
2. มอเตอร์ไซค์ BMW S1000XR
ฉายาของ มอเตอร์ไซค์ BMW รุ่นนี้ มีชื่อเรียกว่า Adventure sport bike การออกแบบ และตำแหน่งการขี่ของ BMW S 1000 XR ปี 2022 นำเสนอมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด จักรยานยนต์คันนี้นำเสนอระบบกันสะเทือนทำให้ S 1000 XR เป็นจักรยานยนต์ที่พิเศษอย่างแท้จริง แม้ว่าเครื่องยนต์แบบ RR จะมอบความดุดันในการขับขี่อย่างมาก แต่ด้วยตำแหน่งการขี่ที่นั่งแบบตรง ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายขณะขับขี่เป็นอย่างมาก
3. มอเตอร์ไซค์ BMW S1000RR
มอเตอร์ไซค์ BMW รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงมาจากปี 2012 และได้รับการอัปเดตในปี 2015 และเป็นที่รักของนักแข่งมาก และเป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สำหรับนักแข่งมืออาชีพ นำเสนอรูปลักษณ์ที่เร่าร้อนและนำเสนออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานง่าย BMW S1000RR ปี 2019 อีกทั้งยังนำเสนอความ ปราดเปรียว แม่นยำ และปราณีต ควบคุมได้ง่ายเหมือนนักแข่งซูเปอร์สปอร์ต 600cc มีน้ำหนักเบา และนำเสนอพลังในระดับสูงสุด นำเสนอเบาะนั่ง M Sport เพื่อรองรับที่เหมาะสมที่สุด ส่วนล้อ M Carbon มีการปรับน้ำหนักให้เหมาะสมเพื่อไดนามิกในการขับขี่สูงสุด ส่วนหน้ามีกระจกบังลมที่ปรับตามหลักอากาศพลศาสตร์และไฟในดีไซน์ LED อันโดดเด่น ไปจนถึงแผงปิดด้านข้างที่มีปีกนก และส่วนท้ายที่สั้นและไดนามิก นอกจากนี้ตัวยึดป้ายทะเบียนที่ถอดออกได้อย่างง่ายดายและฝาครอบส่วนท้ายแบบเสริม ได้มุ่งเน้นการออกแบบของ RR ในด้านประสิทธิภาพจนถึงรายละเอียดสุดท้าย
4. มอเตอร์ไซค์ BMW F800R
มอเตอร์ไซค์คันนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่แชมป์โลก 4 สมัย โดยมีพื้นฐานมาจาก F800R เครื่องยนต์สูบคู่ขนาด 798cc. F800R มีพื้นฐานมาจาก F800S แบบสปอร์ตแบบ half-faired แต่มาพร้อมกับสวิงอาร์ม 2 ด้านที่แข็งกว่า นอกจากนี้ยังมีรุ่นสปอร์ตทัวริ่งที่เรียกว่า F800ST เครื่องยนต์แบบเดียวกันนี้ ถูกนำมาใช้ในมอเตอร์ไซค์แนวผจญภัยสไตล์ดาการ์ F800GS อันน่าทึ่ง มอเตอร์ไซค์คันนี้มีการตั้งค่าในการขับขี่ 3 แบบ ได้แก่…Comfort, Normal และ Sport ซึ่งคนขับสามารถเลือกได้โดยการกดปุ่มเดียวบนแถบด้านซ้าย
5. มอเตอร์ไซค์ BMW R1200RS Iconic
R1200RS เป็นรถสปอร์ตทัวริ่งที่ใช้บ็อกเซอร์ 1170cc. โดยเป็นรุ่นแฟริ่งของ R1200R naked roadster ซึ่งให้กำลัง 125 แรงม้าและแรงบิด 92 ฟุตปอนด์ ระบบของมอเตอร์ไซค์คันนี้ทำงานได้ดีตั้งแต่คันเกียร์ที่ 3 ไป 4 และ 4 ไป 5 และ 5 – 6 แต่เกียร์ต่ำนั่นไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ การเปลี่ยนเกียร์ลงแบบไม่ใช้คลัตช์นั้นรู้สึกยากนิดหน่อย เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติเปิด – ปิดอัตโนมัติที่พบใน S1000RR ถึงกระนั้นก็ยังดีที่ได้ขับผ่านเกียร์บนเหมือนนักแข่งรถโรดเรซเซอร์
มอเตอร์ไซค์ทั้ง 5 รุ่นนี้มีเอกลักษณ์การออกแบบภายนอกที่แตกต่างกันไป บางรุ่นนำรุ่นเก่ามาต่อยอดเพื่อพัฒนาให้กลายเป็นรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพทรงพลังและมีความเท่เข้ายุคเข้าสมัยมากกว่าเดิม ซึ่งหวังว่าในอนาคตคนรักมอเตอร์ไซต์จะได้เห็นพัฒนาการของ มอเตอร์ไซค์ BMW ในอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์หรือไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสมรรถนะก็ตาม
เครดิตภาพ bigbike.in.th
อ่านบทความ 5 รุ่น มอเตอร์ไซค์ Ducati ยอดฮิต ปี 2022